ข้อปฏิบัติ จักมีแก่ภิกษุทั้งหลาย ในอนาคตกาล ได้อย่างไรหนอ เล่ม53หน้า207 - คุยได้ฟังดีกับบรรดาสมาชิกวัด - กระดานสนทนาธรรม
กระดานสนทนาธรรม

ที่พักสงฆ์ป่าสามแยก บ้านห้วยยางทอง ต.วังกวาง อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ 67260


ข้อปฏิบัติ จักมีแก่ภิกษุทั้งหลาย ในอนาคตกาล ได้อย่างไรหนอ เล่ม53หน้า207

ในอนาคตกาล ภิกษุทั้งหลายในพระศาสนานี้
จักมีความพอใจอย่างไร
มีความประสงค์อย่างไร
กระผมถามแล้ว ขอจงบอกความข้อนั้นแก่กระผมเถิด.

ดูก่อนปัณฑรสฤาษี
ขอเชิญฟังคำของอาตมา
จงจำคำของอาตมาให้ดี
อาตมาจะบอกซึ่งข้อความที่ท่านถามถึงอนาคตกาล.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรคาถา เล่ม ๒ ภาค ๓ ตอน ๔ - หน้าที่ 209
ลำดับนั้น
พระเถระมองเห็นตามความเป็นจริง
ซึ่งความเป็นไปของพวกภิกษุ และพวกนางภิกษุณีอย่างแจ่มแจ้ง
ด้วยอนาคตังสญาณแล้ว
เมื่อจะบอกแก่ดาบสนั้น จึงกล่าวคาถาเหล่านี้ว่า

ในกาลข้างหน้า ภิกษุเป็นอันมาก
จักเป็นคนมักโกรธ
มักผูกโกรธไว้
ลบหลู่คุณท่าน
หัวดื้อ โอ้อวด ริษยา
มีวาทะต่าง ๆ กัน
จักเป็นผู้มีมานะ ในธรรมที่ยังไม่รู้ทั่วถึง
คิดว่าตื้นในธรรมที่ลึกซึ้ง
เป็นคนเบา
ไม่เคารพธรรม
ไม่มีความเคารพกันและกัน

ในกาลข้างหน้าโทษเป็นอันมากจักเกิดขึ้นในหมู่สัตวโลก

ก็เพราะภิกษุทั้งหลายผู้ไร้ปัญญา
จักทำ ธรรมที่พระศาสดาทรงแสดงแล้วนี้ให้เศร้าหมอง
ทั้งพวกภิกษุ ที่มีคุณอันเลวโวหารจัด แกล้วกล้า มีกำลังมาก
ปากกล้า ไม่ได้ศึกษาเล่าเรียน ก็จักมีขึ้นในสังฆมณฑล
ภิกษุทั้งหลาย
ในสังฆมณฑล แม้ที่มีคุณความดี
มีโวหารโดยสมควรแก่เนื้อความ
มีความละอายบาป ไม่ต้องการอะไร ๆก็จักมีกำลังน้อย

ภิกษุทั้งหลาย
ในอนาคตที่ทรามปัญญา ก็จะพากัน ยินดี
เงิน ทอง ไร่นา ที่ดิน แพะ แกะ และคนใช้หญิงชาย
จักเป็นคนโง่มุ่งแต่จะยกโทษผู้อื่น
ไม่ดำรงมั่นอยู่ในศีล ถือตัว โหดร้าย เที่ยวยินดีแต่การทะเลาะวิวาท
จักมีใจฟุ้งซ่าน นุ่งห่มแต่จีวรที่ย้อมสีเขียวแดง เป็นคนลวงโลก กระด้าง

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรคาถา เล่ม ๒ ภาค ๓ ตอน ๔ - หน้าที่ 210
เป็นผู้แส่หาแต่ ลาภผล
เที่ยวชูเขา คือ มานะ
ทำตน ดังพระอริยเจ้า ท่องเที่ยวไปอยู่
เป็นผู้แต่งผมด้วยน้ำมัน ทำให้มีเส้นละเอียด
เหลาะแหละ ใช้ยาหยอดและทาตา
มีร่างกายคลุมด้วยจีวรที่ย้อมด้วยสีงา
สัญจรไปตามตรอกน้อยใหญ่
จักพากันเกลียดชังผ้าอันย้อมด้วยน้ำฝาด เป็นของไม่น่าเกลียด
พระอริยเจ้าทั้งหลายผู้หลุดพ้นแล้ว ยินดียิ่งนักเป็นธงชัยของพระอรหันต์

พอใจแต่ในผ้าขาว ๆ จักเป็นผู้มุ่งแต่ลาภผล
เป็นคนเกียจคร้าน
มีความเพียรเลวทราม
เห็นการอยู่ป่าอันสงัด เป็นความลำบาก
จักใคร่อยู่ในเสนาสนะที่ใกล้บ้าน


ภิกษุเหล่าใด
ยินดี มิจฉาชีพ จักได้ลาภเสมอ ๆ จักพากันประพฤติตามภิกษุเหล่านั้น
(เที่ยวคบหาราชสกุลเป็นต้น เพื่อให้เกิดลาภแก่ตน) ไม่สำรวมอินทรีย์เที่ยวไป

อนึ่ง ในอนาคตกาล
ภิกษุทั้งหลายจะไม่บูชาพวกภิกษุที่มีลาภน้อย
จักไม่สมคบภิกษุที่เป็นนักปราชญ์ มีศีลเป็นที่รัก
จักทรงผ้าสีแดง ที่ชนชาวมิลักขะชอบย้อมใช้
พากันติเตียนผ้าอันเป็นธงชัยของตนเสีย
บางพวกก็นุ่งห่มผ้าสีขาวอันเป็นธงของพวกเดียรถีย์


อนึ่ง ในอนาคตกาล ภิกษุเหล่านั้น
จักไม่เคารพในผ้ากาสาวะ
จักไม่พิจารณาในอุบายอันแยบคาย
บริโภคผ้ากาสาวะ
เมื่อทุกข์ครอบงำถูกลูกศรแทงเข้าแล้ว ก็ไม่พิจารณาโดยแยบคาย
แสดงอาการยุ่งยากในใจออกมา
มีแต่เสียงโอดครวญอย่างใหญ่หลวง


อนึ่ง
ภิกษุและภิกษุณีทั้งหลายในอนาคต
จักเป็นผู้มีจิตใจชั่วร้าย
ไม่เอื้อเฟื้อจักข่มขู่ภิกษุทั้งหลายผู้คงที่มีเมตตาจิต
 แม้ภิกษุทั้งหลายที่เป็นคนโง่เขลา มีปัญญาทราม
ไม่สำรวมอินทรีย์
กระทำตามความใคร่
ถึงพระเถระ ให้ศึกษา การใช้สอยผ้าจีวร ก็ไม่เชื่อฟัง

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรคาถา เล่ม ๒ ภาค ๓ ตอน ๔ - หน้าที่ 212
พวกภิกษุที่โง่เขลาเหล่านั้น
อันพระเถระทั้งหลายให้การศึกษาแล้วเหมือนอย่างนั้น
จักไม่เคารพกันและกัน
ไม่เอื้อเฟื้อในพระอุปัชฌายาจารย์
จักเป็นเหมือนม้าพิการ
ไม่เอื้อเฟื้อนายสารถีฉะนั้น

 ในกาลภายหลังแต่ตติยสังคายนา
ภิกษุและภิกษุณีทั้งหลายในอนาคต จักปฏิบัติอย่างนี้.
ภัยอย่างใหญ่หลวงที่จะทำอันตรายต่อข้อปฏิบัติ ย่อมมาในอนาคตอย่างนี้ก่อน
ขอท่านทั้งหลาย จงเป็นผู้ว่าง่าย
จงพูดแต่ถ้อยคำที่สละสลวย
มีความเคารพกันและกัน
มีจิตเมตตากรุณาต่อกัน
จงสำรวมในศีล
ปรารภความเพียร
มีใจเด็ดเดี่ยวบากบั่นอย่างมั่นเป็นนิตย์
ขอท่านทั้งหลาย
จงเห็นความ ประมาท โดยความเป็นภัย และ
จงเห็นความ ไม่ประมาท โดยความเป็นของปลอดภัย
แล้วจงอบรมอัฏฐังรคิกมรรค
เมื่อทำได้ดังนี้แล้ว ย่อมจะบรรลุพระนิพพานอันเป็นทางไม่เกิดไม่ตาย.




 

Sitemap 1 2 3 4 5 6 7 8 9