ท้าวสักกะบีบภูเขา แล้วเขียนรูปกระต่ายในดวงจันทร์ให้อยู่ตลอดกัป 58-488 - คุยได้ฟังดีกับบรรดาสมาชิกวัด - กระดานสนทนาธรรม
กระดานสนทนาธรรม

ที่พักสงฆ์ป่าสามแยก บ้านห้วยยางทอง ต.วังกวาง อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ 67260


ท้าวสักกะบีบภูเขา แล้วเขียนรูปกระต่ายในดวงจันทร์ให้อยู่ตลอดกัป 58-488

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๔ - หน้าที่ 488
บรรดาบทเหล่านั้น
บทว่า มมํ ภุตฺวา ความว่า ท่านจงบริโภคเรา
ผู้สุกด้วยไฟที่เราบอกให้ท่านก่อขึ้นนี้แล้วจงอยู่ในป่านี้
ธรรมดาว่าร่างกายของกระต่ายตัวหนึ่ง ย่อมจะพอยังชีพของบุรุษคนหนึ่งให้เป็นไปได้.

ท้าวสักกะได้ทรงสดับถ้อยคำของสสบัณฑิตนั้นแล้ว
จึงเนรมิตกองถ่านเพลิงกองหนึ่งด้วยอานุภาพของตน แล้วบอกแก่พระโพธิสัตว์
พระโพธิสัตว์นั้นลุกขึ้นจากที่นอนหญ้าแพรกของตนแล้วไปที่กองถ่านเพลิงนั้น
คิดว่า ถ้าสัตว์เล็ก ๆ ในระหว่างขนของเรามีอยู่สัตว์เหล่านั้นอย่าตายด้วยเลย
แล้วสะบัดตัว ๓ ครั้ง บริจาคร่างกายทั้งสิ้นในทานมุข ปากทางของทาน
กระโดดโลดเต้นมีใจเบิกบาน กระโดดลงในกองถ่านเพลิง เหมือนพระยาหงส์
กระโดดลงในกอปทุมฉะนั้น.

แต่ไฟนั้นไม่อาจทำความร้อนแม้สักเท่าขุมขนในร่างกายของพระโพธิสัตว์ ได้เป็นเสมือนเข้าไปในห้องหิมะฉะนั้น.

ลำดับนั้น
พระโพธิสัตว์เรียกท้าวสักกะมากล่าวว่า พราหมณ์ ไฟที่ท่านก่อไว้เย็นยิ่งนัก
ไม่อาจทำความร้อนแม้สักเท่าขุมขนในร่างกายของข้าพเจ้า นี่อะไรกัน.
ท้าวสักกะตรัสว่า
ท่านบัณฑิต เรามิใช่พราหมณ์ เราเป็นท้าวสักกะมาเพื่อจะทดลองท่าน.
พระโพธิสัตว์จึงบรรลือสีหนาทว่า ข้าแต่ท้าวสักกะ พระองค์จงหยุดพักไว้ก่อนเถิด
หากโลกสันนิวาสทั้งสิ้นจะพึงทดลองข้าพระองค์ด้วยทานไซร้
จะไม่พึงเห็นความที่ข้าพระองค์ไม่เป็นผู้ประสงค์จะให้ทานเลย.

ลำดับนั้น
ท้าวสุกกะจึงตรัสกะพระโพธิสัตว์นั้นว่า
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๔ - หน้าที่ 489
ดูก่อนสสบัณฑิต คุณของท่านจงปรากฏอยู่ตลอดกัป ทั้งสิ้นเถิด
แล้วทรงบีบบรรพตถือเอาอาการเหลวของบรรพต เขียนลักษณะของกระต่ายไว้ในดวงจันทร์

แล้วนำพระโพธิสัตว์มาให้นอนบนหลังหญ้าแพรกอ่อนในพุ่มไม้ป่านั้นนั่นแหละในไพรสณฑ์นั้น
แล้วเสด็จไปยังเทวโลกของพระองค์ทีเดียว.
บัณฑิตทั้ง ๔ แม้นั้นพร้อมเพรียงบันเทิงอยู่
พากันบำเพ็ญศีล รักษาอุโบสถกรรมแล้วไปตามยถากรรม.

พระศาสดาครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว จึงทรงประกาศสัจจะประชุมชาดก
ในเวลาจบสัจจะคฤหบดีผู้ถวายบริขารทุกอย่างดำรงอยู่ในโสดาปัตติผล.
นากในกาลนั้น ได้เป็นพระอานนท์
สุนัขจิ้งจอกได้เป็นพระโมคคัลลานะ
ลิงได้เป็นพระสารีบุตร
ท้าวสักกะได้เป็นพระอนุรุทธะ
ส่วนสสบัณฑิต ได้เป็นเราตถาคต ฉะนี้แล.
จบ อรรถกถาสสบัณฑิตชาดกที่ ๖
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๔ - หน้าที่ 490



 

Sitemap 1 2 3 4 5 6 7 8 9