พระเทวทัตสั่งพวกแม่นธนูไปยิงพระพุทธเจ้า แต่ยิงพระองค์ไม่ได้ ได้ฟังเทศน์จนเป็นพระโสดาบัน สุดท้ายก็ได้เป็นพระอรหันต์ทั้งหมด ๓๑ คน เล่ม64หน้า149 - คุยได้ฟังดีกับบรรดาสมาชิกวัด - กระดานสนทนาธรรม
กระดานสนทนาธรรม

ที่พักสงฆ์ป่าสามแยก บ้านห้วยยางทอง ต.วังกวาง อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ 67260


พระเทวทัตสั่งพวกแม่นธนูไปยิงพระพุทธเจ้า แต่ยิงพระองค์ไม่ได้ ได้ฟังเทศน์จนเป็นพระโสดาบัน สุดท้ายก็ได้เป็นพระอรหันต์ทั้งหมด ๓๑ คน เล่ม64หน้า149

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๔ ภาค ๓ - หน้าที่ 149
อรรถกถาจันทกุมารชาดก
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ที่ภูเขาคิชฌกูฏ ทรงปรารภพระเทวทัต
จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า ราชาสิ ลุทฺทกมฺโม ดังนี้.
เรื่องของพระเทวทัตนั้น มาแล้วในสังฆเภทกขันกะแล้วนั่นแล.
เรื่องนั้น นับจำเดิมแต่เวลาที่ท่านออกผนวชแล้วตราบเท่าถึงให้ปลงพระชนมชีพ
ของพระเจ้าพิมพิสาร พึงทราบโดยนัยที่กล่าวแล้วในที่นั้นนั่นเอง.


ฝ่ายพระเทวทัต ครั้นให้ปลงพระชนมชีพพระเจ้าพิมพิสารแล้ว
ก็เข้าไปเฝ้าพระเจ้าอชาตศัตรูทูลว่า ดูก่อนมหาราช
มโนรถของพระองค์ถึงที่สุดแล้ว
ส่วนมโนรถของของอาตมา ก็ยังหาถึงที่สุดก่อนไม่.
พระราชาได้ทรงฟังดังนั้นจึงตรัสถามว่า
ดูก่อนท่านผู้เจริญ ก็มโนรถของท่านเป็นอย่างไร ?

พระเทวทัต. ดูก่อนมหาราช
เมื่อฆ่าพระทสพลแล้วอาตมาจักเป็นพระพุทธเจ้ามิใช่หรือ ?

พระราชาตรัสถามว่า ก็ในเพราะเรื่องนี้ควรเราจะทำอย่างไรเล่า ?
เทวทัต. ดูก่อนมหาราช ควรจะให้นายขมังธนูทั้งหลายประชุมกัน.

พระราชาทรงรับว่า ดีละ ท่านผู้เจริญ
จึงให้ประชุมนายขมังธนูจำพวกที่ยิงไม่ผิดพลาดรวม ๕๐๐ ตระกูล
ทรงเลือกจากคนเหล่านั้นไว้ ๓๑ คน
ตรัสสั่งว่า พ่อทั้งหลาย พวกเจ้าจงทำตามคำสั่งของพระเถระ
ดังนี้แล้วจึงส่งไปยังสำนักพระเทวทัต.

พระเทวทัตเรียกผู้เป็นใหญ่ ในบรรดาพวกนายขมังธนูเหล่านั้นมาแล้วกล่าวอย่างนี้ว่า
ท่านผู้มีอายุ พระสมณโคดมประทับอยู่ ณ เขาคิมฌกูฏเสด็จจงกรมอยู่ในที่พักกลางวันในที่โน้น.
ส่วนท่านจงไปในที่นั้น ยิงพระสมณโคดมด้วยลูกศรอาบด้วยยาพิษ ให้สิ้นพระชนมชีพแล้ว จงกลับโดยทางชื่อโน้น.

พระเทวทัตนั้น ครั้นส่งนายขมังธนูผู้ใหญ่นั้นไปแล้ว จึงพักนายขมังธนูไว้ในทางนั้น ๒ คน
ด้วยสั่งว่า จักมีบุรุษคนหนึ่งเดินทางมาโดยทางที่พวกท่านยืนอยู่
พวกท่านจงปลงชีวิตบุรุษนั้นเสีย แล้วกับมาโดยทางโน้น.

ในทางนั้นพระเทวทัตจึงวางบุรุษไว้๔ คน
ด้วยสั่งว่า โดยทางที่พวกท่านยืนอยู่ จักมีบุรุษเดินมา ๒ คน
ท่านจงปลงชีวิตบุรุษ ๒ คนนั้นเสีย แล้วกลับมาโดยทางชื่อโน้น.

ในทางนั้น พระเทวทัตวางคนไว้ ๘ คน ด้วยสั่งว่า
โดยทางที่พวกท่านยืนอยู่จักมีบุรุษ ๔ คนเดินทางมา
พวกท่านจงปลงชีวิตบุรุษทั้ง ๔ คนนั้นเสีย แล้วกลับโดยทางชื่อโน้น.

ในทางนั้น พระเทวทัตวางบุรุษไว้ ๑๖ คน
ด้วยสั่งว่าโดยทางที่พวกท่านไปยืนอยู่ จักมีบุรุษเดินมา ๘ คน
ท่านจงปลงชีวิตบุรุษทั้ง๘ คนนั้นเสีย แล้วจงกลับมาโดยทางชื่อโน้น.

ถามว่า ก็เพราะเหตุไรพระเทวทัตจึงทำอย่างนั้น.
แก้ว่า เพราะปกปิดกรรมชั่วของตน.
ได้ยินว่า พระเทวทัตได้ทำดังนั้น เพื่อจะปกปิดกรรมชั่วของตน.

ลำดับนั้น
นายขมังธนูผู้ใหญ่ ขัดดาบแล้วทางข้างซ้าย ผูกแล่งและศรไว้ข้างหลังจับธนูใหญ่ทำด้วยเขาแกะ
ไปยังสำนักพระตถาคตเจ้า จึงยกธนูขึ้นด้วยสัญญาว่า เราจักยิงดังนี้แล้ว
จึงผูกสอดลูกศร ฉุดสายมาเพื่อจะยิง ก็ไม่สามารถจะยิงไปได้.

พระศาสดา ได้ทรงให้คร่าธนูมาแล้ว หาได้ประทานให้ยิงไปได้ไม่.
นายขมังธนูผู้ใหญ่นั้น เมื่อไม่อาจแม้จะยิงลูกศรไปก็ดี ลดลงก็ดี ก็ได้เป็นคนลำบากใจ
เพราะสีข้างทั้งสองเป็นเหมือนจะหักลง น้ำลายก็ไหลนองออกจากปาก.
ร่างกายทั้งสิ้นเกิดแข็งกระด้าง ได้เป็นเสมือนถึงอาการอันเครื่องยนต์บีบคั้น.
นายขมังธนูนั้นได้เป็นคนอันมรณภัยคุกคามแล้วยืนอยู่.

ลำดับนั้น
พระศาสดา ทรงทอดพระเนตรเห็นดังนั้นแล้ว ทรงเปล่งด้วยเสียงอันไพเราะ
ตรัสปลอบนายขมังธนูว่า พ่อบุรุษผู้โง่เขลาท่านอย่ากล่าวเลย จงมาที่นี้เถิด.

ในขณะนั้น
นายขมังธนูก็ทิ้งอาวุธเสีย กราบลงด้วยศีรษะแทบพระบาทพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วทูลว่า

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
โทษได้ล่วงข้าพระพุทธเจ้าแล้ว โดยที่เป็นคนเขลา คนหลง คนชั่วบาป
ข้าพระพุทธเจ้ามิได้รู้จักคุณของพระองค์ จึงได้มาแล้ว เพื่อปลงพระชนมชีพของ
พระองค์ ตามคำเสี้ยมสอนของพระเทวทัตผู้เป็นอันธพาล

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ขอพระองค์จงอดโทษข้าพระพุทธเจ้า
ข้าแต่พระสุคตขอพระองค์จงอดโทษข้าพระพุทธเจ้า
ข้าแต่พระองค์ผู้รู้โลก ขอพระองค์จงอดโทษข้าพระพุทธเจ้า
ครั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอดโทษให้ตนแล้วก็นั่งลงในที่สุดส่วนข้างหนึ่ง.

ลำดับนั้น
พระศาสดา เมื่อจะทรงประกาศสัจจะทั้งหลาย ยังนายขมังธนูให้ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผลแล้ว
ดำรัสสอนว่า ท่านผู้มีอายุ ท่านอย่าเดินทางไปตามทางที่พระเทวทัตชี้ให้
จงไปเสียทางอื่น แล้วส่งนายขมังธนูนั้นไป.

ก็แล้วครั้นส่งนายขมังธนูไปแล้ว พระองค์ก็เสด็จลงจากที่จงกรมไปประทับอยู่ ณ โคนไม้ต้นหนึ่ง.

ลำดับนั้น
เมื่อนายขมังธนูผู้ใหญ่มิได้กลับมา
นายขมังธนูอีก ๒ คนที่คอยอยู่ก็คิดว่า
อย่างไรหนอเขาจึงล่าช้าอยู่
ออกเดินสวนทางไป ครั้นเห็นพระทศพล
ก็เข้าไปถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่สุดส่วนข้างหนึ่ง.

พระศาสดาครั้นทรงประกาศพระอริยสัจแก่ชนทั้ง ๒ ยังเขาให้ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล
แล้วดำรัสสอนว่า ท่านผู้มีอายุ
ท่านอย่าเดินไปทางที่พระเทวทัตบอก
จงไปโดยทางนี้ แล้วก็ส่งเขาไป โดยอุบายนี้
เมื่อทรงประกาศพระอริสัจ ยังนายขมังธนูแม้นอกนี้ ที่มานั่งเฝ้า ให้ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผลแล้ว
ก็ทรงส่งไปโดยทางอื่น.

ลำดับนั้น
นายขมังธนูผู้ใหญ่นั้น กลับมาถึงก่อน ก็เข้าไปหาพระเทวทัต
กล่าวว่า ข้าแต่พระเทวทัตผู้เจริญ
ข้าพเจ้าหาได้อาจปลงพระชนมชีพพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ย่อมทรงฤทธิ์อันยิ่งใหญ่ ทรงอานุภาพอันยิ่งใหญ่.

ส่วนบรรดานายขมังธนูเหล่านั้น รำพึงว่า เราทั้งหมดนั้นอาศัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงได้รอดชีวิตแล้ว
ก็ออกบรรพชาในสำนักพระศาสดา แล้วทรงบรรลุพระอรหัตทุกท่าน.



 

Sitemap 1 2 3 4 5 6 7 8 9